2500 เลือกตั้งครั้งแรก
เริ่มต้น การเลือกตั้ง วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ปี 2500 ครั้งนั้น จอมพล ป พิบูลสงคราม ในตอนนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี ได้จัดเลือกตั้ง โดยอ้างเรื่อง 25 พุทธศตรวรรษ อย่างไรก็ดี การเลือกตั้งครั้งนี้ได้ชื่อว่า เป็นการเลือกตั้งที่สกปรกที่สุด
โดยผู้กล่าวหาครั้งนั้นว่า เลือกตั้งสกปรกที่สุด คือ พรรคประชาธิปัตย์ ที่จัดตั้งโดย ควง อภัยวงศ์ ซึ่งเป็นลุกชายของ เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ที่เป็นผู้สำเร็จราชการ จังหวัดพระตะบอง หรือผู้ดูแลเขมรในยุคนั้นนั่นเอง และ มรว. เสนีย์ ปราโมช ที่ได้ตั้งพรรคในวันจักรี คือ 6 เมษายน อีกด้วย เรียกว่าเป็นพรรคนิยมเจ้า หรืออนุรักษ์นิยมอย่างแท้จริง แต่ตั้งชื่อเป็น พรรคประชาธิปัตย์
การเลือกตั้งครั้งนั้น ตามที่ระบุในข่าว มีการใช้เวลานับคะแนนนานถึง 7 วัน 7 คืน มีการสับเปลี่ยนหีบเลือกตั้งอย่างโจ่งครึ่ม อย่างไรก็ดี พรรคมนังคศิลา ของจอมพล ป พิบูลสงคราม นั้น ชนะการเลือกตั้ง แต่ชาวบ้าน นิสิตนักศึกษา ต่างออกมาชุมนุมประท้วง
2500 รัฐประหาร จนนำไปสู่การรัฐประหารในวันที่ 16 กันยายน 2500 โดย สดิษฎ์ ธนะรัชต์ ลูกน้องคนสนิทของ จอมพล ป พิบูลสงคราม โดยให้ พจน์ สารสิน เป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว
2500 เลือกตั้ง ต่อมา ปลายปีนั้น ก็มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 15 ธันวาคม 2500 โดยคนที่ดูแล การเลือกตั้งทั้งหมด คือ พลเอกประภาส จารุเสถียร รัฐบาลทหารส่ง พรรคสหภูมิ ลงเลือกตั้ง แข่งกับ พรรคประชาธิปัตย์ โดยการเลือกตั้งครั้งนั้น ได้ จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี
2501 รัฐประหาร แต่แล้ว วันที่ 20 ตุลาคม 2501 จอมพลถนอม กิตติขจร ควบคุม สส. ในสภาไว้ไม่ได้ ยื่นใบลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้ จอมพลสดิษฐ์ ธนะรัชต์ ต้องรีบกลับจากการรักษาตัวที่ต่างประเทศ ก็ทำรัฐประหารทันที พร้อมกับอ้างเรื่อง ความมั่นคงจากลัทธิคอมมิวนิสต์ ชาวบ้านต่างรู้กันดีกว่า นี่คือ การซูเอี๋ยกันครั้งใหญ่ ครั้งนั้น คณะรัฐประหารยังฉีกรัฐธรรมนูญปี 2475 ทั้งหมด และยังประกาศยุบพรรคการเมืองทั้งหมดอีกด้วย
2502 ร่างรัฐธรรมนูญ
หลังจากนั้น คณะรัฐประหาร ก็แต่งตั้ง สภาร่างรัฐธรรมนูญ ที่มี นายทวี บุญยเกตุ เป็นประธาน ขึ้นมา จนในปี 2502 สภาร่างก็สามารถออก รัฐธรรมนูญฉบับ ปี 2502 ออกมาได้สำเร็จ
แม้ว่าจะคลอดรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีการเลือกตั้งใดๆ ทั้งสิ้น เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปี 2502 มีเพียงแค่ 20 มาตราเท่านั้น โดยมี มาตรา 17 ที่ให้อำนาจทุกอย่างกับ นายกรัฐมนตรี ทำให้ นายกรัฐมนตรี คือ จอมพลถนอม กิตติขจร นั้นมีอำนาจทำได้ทุกอย่างไม่ต้องรอมติจากสภา
2511 ประกาศใช้ รัฐธรรมนูญฉบับปี 2511
ณ ปี 2511 ประเทศไทยไม่มีการเลือกตั้งทั่วประเทศมาตั้งแต่ปี 2500 รวม 12 ปีแล้ว แต่รัฐบาล ถนอม ยังคงอ้างการเขียนรัฐธรรมนูญมาอย่างต่อเนื่อง โดยรอบนี้ยาวนาน 9 ปีเศษ เสร็จสิ้นในปี 2511 ในที่สุดประเทศไทยก็ถึงเวลาเลือกตั้งทั่วประเทศอีกครั้ง
แต่ครั้งนั้น จอมพลถนอม กิตติขจร ได้จดทะเบียนพรรค สหประชาไทย ขึ้น เพื่อลงสนามเลือกตั้ง ในปี 2512 ที่ว่างเว้นการเลือกตั้งยาวนานถึง 12 ปีเต็ม โดยเลือกตั้งในปี 2512 แน่อนนว่า พรรคสหประชาไทย ชนะเลือกตั้ง แน่นอนว่า พรรคอันดับ 2 อย่างประชาธิปัตย์ ก็ต้องไปเป็นฝ่ายค้าน
2514 รัฐประหารตัวเอง
รัฐบาลอยู่มาได้ 2 ปี หลังจากนั้น จอมพลถนอม กิตติขจร ไม่สามารถควบคุม สส. ในสภาได้ ก็ประกาศ ยึดอำนาจตัวเอง โดยตัวเองตอนนั้น ยังนั่งตำแแหน่ง นายกรัฐมนตรี และประกาศว่า ตัวเองคือ หัวหน้าคณะปฎิวัติ โดยกเลิก รัฐสภา และยกเลิก พรรคการเมืองอีกครั้ง
2515 ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ
คราวนี้ มีการอ้างมาตรา 17 ที่ให้อำนาจนายกรัฐมนตรี สามารถทำได้ทุกอย่าง กลับไปใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญเช่นเดิม ประเด็นตอนนั้น คือ ประชาชนอยู่กับ มาตรา 17 มาตั้งแต่ปี 2502-2511 จนได้ยกเลิกมาตรา 17 มารอบหนึ่งแล้ว คราวนี้จะเอากลับมาใส่ใหม่อีกครั้ง อีกประเด็นคือ ขณะนั้น ทหารปกครองประเทศนี้มา-ยาวนาน 15 ปีแล้ว คือตั้งแต่ปี 2500 -2515 ประชาชนและนักศึกษาจึงรวมตัวกันประท้วง ขอร่างรัฐธรรมนูญใหม่อีกครั้ง
2516 ทหารยิงประชาชน ทหารล้อมปราบนักศึกษา เหตุการณ์ครั้งนั้นจบด้วย จอมพลถนอม กิตติขจร ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
2517 รัฐธรรมนูญใหม่ มรว คึกฤกษ์ ปราโมช เป็นประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญใหม่อีกครั้ง และ ได้ประกาศใช้ในปี 2517 จนประชาชน ได้เลือกตั้งใหม่ในปี 2518 การเลือกตั้งคร้้งนั้น พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายชนะ และได้นายกรัฐมนตรีคือ มรว เสนีย์ ปราโมช
2519 รัฐประหาร เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 เมื่อ จอมพลถนอม กิตติขจร ได้เดินทางกลับประเทศไทย ทำให้ประชาชน นิสิตนักศึกษาต่างไม่พอใจ แต่ พลตำรวจโท ชุมพล โลหะชาละ ได้อนุญาติให้ยิงปืนได้โดยเสรี ทำให้เกิดความวุ่นวาย
โดยดึกวันนั้น คณะปฎิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่นำโดย พลเรือเอก สงัด ชลออยู่ ก็ได้ก่อรัฐประหาร คืนนั้นได้เข้าคุมตัว มรว เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นไว้ข้ามคืน จึงปล่อยตัวในวันรุ่งขึ้น โดยครั้งแรก โดยให้ นายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรี และมีการตั้ง สภาปฎิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ทำหน้าที่เหมือน สส. จำนวน 340 คนขึ้น
2520 รัฐประหาร ซ้ำ
20 ตุลาคม 2520 ก็รัฐประหารซ้ำโดยคนเดิมเจ้าเก่า พลเรือเอกสงัด ชลออยู่ และเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีจาก พลเอก ธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็น พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ อดีตผู้บังคับบัญชาสูงสุด
ประเด็นสำคัญคือ มีการตั้ง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อให้มีการเลือกตั้ง ในปี 2522
2521 รัฐธรรมนูญใหม่
มีการระบุในมาตรา 84 ให้พระมหากษัตริย์เป็นผู้แต่งตั้ง สว.
มาตรา 106 ถือว่า สว. คือตัวแทนของประชาชนชาวไทย
มาตรา 113 (ระบุในส่วนของทั้ง สส และ สว) ให้ลงมติเกินกึ่งหนึ่ง
นั่นคือ สว.,มีสิทธิโหวตเลือก นายกรัฐมนตรี
2522 เลือกตั้ง โดยมีกติกาคือ ในวันที่มีการเลือกตั้ง สส จะมีการแต่งตั้ง สว และ สว. ในที่สุด เราก็ได้ อดีตผู้บัญชาการทหารบก เป็นนายกรัฐมนตรี ชื่อ เปรม ติณสูรนนท์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น