Advertising

..

วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2565

ค่าโง่สัมปทาน สัญญาทาส : ดอนเมืองโทลเวย์

ค่าโง่ดอนเมืองโทลเวย์

ทางยกระดับอุตราภิมุข หรือ ชื่อเล่น คือ ดอนเมืองโทลเวย์ โดยวัตถุประสงค์หลักคือ การระบายการจราจร ระหว่างรังสิต และถนนพหลโยธิน โดยในตอนแรกมีแนวคิดที่จะแค่ขยายถนนเท่านั้น 

เรียงตาม TimeLine ดังนี้

1. ยุค นายกรัฐมนตรี ชาติชาย ชุณหวัณ
จุดเริ่มต้น คือ รัฐบาล ชาติชาติ ชุณหวัณ โดย มี นาย มนตรี พงษ์พานิช เป็น รัฐมนตรีคมนาคม เป็นผู้ลงนามเซ็นสัญญา กำหนดให้ ตอนเริ่มต้น คือ ให้เอกชนสร้าง และ ให้เอกชนเป็นผู้เก็บเงินทั้งหมด โดยเริ่มต้นสัญญาในปี 2532 อายุสัมปทานเพียง 25 ปี ดังนั้นจะไปสิ้นสุดในปี 2557

สัญญาเริ่มต้น เพียง ระยะทาง 15.4 กิโลเมตร  เริ่มต้นจุดเริ่มต้นจาก ดินแดงไปสิ้นสุดที่ ดอนเมือง
ค่าผ่านทาง กำหนดไว้แค่ 2 ช่วงคือ
ช่วงแรก (ปี 2534–2541) ระหว่าง 20–30 บาท
ช่วงที่ 2 (ปี 2541–2547) ในอัตรา 30–40 บาท

ประเด็นสำคัญคือ ในสัญญาระบุว่า หากรัฐบาลกระทำใดๆ อันทำให้ จำนวนยวดยานพาหนะลดลง แล้ว จะต้องชดเชยให้ด้วยการให้เพิ่มค่าธรรมเนียม หรือ ขยายอายุสัมปทาน ได้ 

ผู้ประมูลได้ คือ  บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด

2. รัฐบาลอานันท์ ปัญญารชุน
แต่แล้ว ในปี 2535  รัฐบาลอานันท์ปัญญารชุน อนุมัติให้สร้างส่วนต่อขยายระยะทางจากดอนเมืองไปถึง อนุสรณ์สถาน

แลกกับการที่  รัฐบาลไทย ไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ ทางเชื่อมยกระดับ หรือ Loop Ramp คือ บริเวณหลักสี่ และบางเขนได้ทัน

3. ชวน หลีกภัย 
ปี 2539 บริษัทอ้างข้อหาเดิม คือ รัฐบาลส่งมอบพื้นที่ให้ไม่ได้ จึงขอแก้ไขสัญญาอีกครั้ง แต่ช่วงนั้น อยู่ระหว่างเจรจากันเท่านั้น

4. บรรหาร ศิลปอาชา
ต่อมารัฐบาลบรรหาร ศิลปอาชา ที่มี นาย วันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้แก้ไขสัญญาลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2539 ให้เอกชนลงทุนขยายเส้นทางไปถึง หน้ากองทัพอากาศ  และยกเชื่อมต่อกับสนามบินดอนเมือง  ประเด็นนี้ ทำให้ต้องต่ออายุสัมปทานเพิ่มไปอีก 7 ปี จากเดิมที่ปี พ.ศ. 2557 กลับไปสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2564  แทน และยังปรับเพดานสูงสุดเดิมที่กำหนดไว้แค่ 30 บาท กลายเป็น 80 บาท และช่วงอนุสรณ์สถานเป็นราคา 15-35 บาท เท่ากับว่า ตอนนี้ อายุสัมปทานขยายไปเป็น 32 ปีแล้ว

นอกจากนี้ รัฐบาลต้องเป็นคนจัดหาเงินกู้ ให้บริษัทอีกจำนวน 8,500 ล้านบาท และบริษัทต้องเพิ่มทุนอีก 4,522 ล้านบาท โดยให้รัฐบาลซื้อหุ้นเพิ่มทุน 3,000 ล้านบาท และหากบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว รัฐบาลต้องขายหุ้นคืนให้ถือครองได้ไมเ่กิน 25 เปอร์เซนต์อีกด้วย

กรณีนี้ มีการแก้ไขสัญญา เนื่องจาก มีการอ้างว่า รัฐบาลส่งมอบพื้นที่ให้ไม่ทันภายในเดือนธันวาคม 2538 เนื่องจาก มีการลงนามขยายระยะทางจากดอนเมืองไปถึงอนุสรณ์สถาน

5. ชวน หลักภัย 2
ปี 2542 ปีนี้จะต้องมี การขึ้นค่าทางด่วนอีกครั้ง ทำให้ มีแก้สัญญาและเปลี่ยนวิธีเก็บเงินใหม่ มาเป็นแบบรวมเก็บเงินท้้งสองส่วน รวมเป็นเงินก้อนเดียว โดยรวมเก็บเงินเป็น 55 บาทแทน และปี 2547 จะต้องปรับเป็น 80 บาท 

6. ทักษิณ ชินวัตร
ในปี 2547 ที่จะต้องปรับค่าโดยสารขึ้นเป็น 80 บาท แต่รัฐบาลทักษิณ แทรกแซงราคาไม่อนุมัติให้ปรับราคาขึ้น และยังใช้อำนาจ ให้ปรับลดอีกด้วยซ้ำ ดังนี้

ปี 2548 ปรับลดราคาลงเหลือ 20 บาทตลอดสาย 
ปี 2549-2550 เก็บ 30 บาทตลอดสาย
ปี 2551-2552 เก็บ 35 บาทตลอดสาย

7. รัฐบาลรัฐประหาร พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ 
ต่อมารัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ทำรัฐประหารเข้ามา มี พล.ร.อ ธีระ ห้าวเจริญ  เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีมติ ขายหุ้น บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง ให้กับ บริษัท แบ็งค๊อกแอนด์ บราวน์ โทลโรดส์ โฮลดิ้ง ประเทศไทย ร้อยละ 12.28 ในราคาหุ้นละ 10 บาท 

ต่อมา บริษัทอ้างเรื่อง การทำผิดสัญญาในรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร (ที่ปรับลดราคาลง) ทำให้วันที่ 12 กันยายน 2550 พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ เลือกต่ออายุสัมปทานไปอีก 13 ปี จากที่จะสิ้นสุดในปี 2564 กลายเป็นสิ้นสุดในปี 2577 รวมอายุสัมปทานยาวถึงนานถึง 45 ปี นอกจากนี้ ยังปรับราคากลับไปเป็นแบบเดิม คือ ดินแดง-ดอนเมืองคิด 20-80 บาท และ ดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน คิด 15-45 บาท โดยคราวนี้แก้ เป็นการปรับราคาไม่ต้องผ่านมติครม. อีกต่อไป 

หากยึดเอาสัญญาปัจจุบัน

เมื่อถึงวันที่ 22 ธ.ค.2572 จนสิ้นสุดอายุสัมปทาน จะปรับราคาขึ้นดังนี้

ช่วงดินแดง-ดอนเมือง รถ 4 ล้อ 100 บาท
ช่วงดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน รถ 4 ล้อ เป็น 45 บาท 

รวมระยะเวลาสัมปทาน ยาวนานถึง 45 ปี คือ ปี 2532-2577


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น